อัลฟัลฟ่า (Alfalfa) ถั่วมหัศจรรย์สารพัดประโยชน์ ราชาแห่งอาหารเพื่อสุขภาพ

อัลฟัลฟ่า

อาหารเพื่อสุขภาพ เทรนด์ยอดฮิตที่กำลังเป็นที่สนใจของหลาย ๆ คน เพราะทุกวันนี้อาหารที่เราทาน อากาศที่เราหายใจล้วนแต่มีสารพิษทำร้ายร่างกาย ทำร้ายสุขภาพทั้งนั้น ไม่แปลกที่ทุกคนจะหันมาดูแลสุขภาพกันมากขึ้น ซึ่งวิธีดูแลสุขภาพของแต่ละคนก็แตกต่างกันไปทั้งออกกำลังกายและการเลือกทานอาหารที่เป็นประโยชน์ อาหารคลีน อาหารเพื่อสุขภาพเป็นเทรนด์ที่กำลังมาแรง โดยเฉพาะ อัลฟัลฟ่า ถั่วมหัศจรรย์ที่มีประโยชน์สารพัด ถ้าใครยังไม่รู้จัก ไปทำความรู้จักพร้อมกันได้เลย

อัลฟัลฟ่า ( Alfalfa) ถั่วมหัศจรรย์สารพัดประโยชน์

เชื่อว่ามีหลายคนที่ไม่เคยได้ยินชื่อ อัลฟัลฟ่า พอพูดถึง อัลฟัลฟ่า บางคนอาจจะนึกไฟถึงพวกชื่อรังสีอะไรหรือเปล่า คำตอบคือ ไม่ใช่เลย จริง ๆ แล้ว อัลฟัลฟ่า เป็นถั่วชนิดหนึ่ง ซึ่งจัดเป็นพืชจำพวกตระกูลถั่วที่มีฝักขนาดเล็ก เป็นพืชพื้นเมืองของแถบ
เมดิเตอร์เรเนียนตะวันออกและเอเชียตะวันตก  ชาวอาหรับโบราณใช้ประโยชน์จาก อัลฟัลฟ่ามากว่า 2,000 ปีก่อนคริสตกาล
โดยเอามาใช้เลี้ยงสัตว์ เพิ่มความแข็งแรงให้กับสัตว์ที่เลี้ยงไว้ใช้งาน อย่าง ม้า วัว และยังสามารถนำมาแตกแห้งชงดื่มเป็นชาได้อีก ด้วยประโยชน์และคุณค่าทางโภชนาการที่มีมากมาย ทำให้ชาวอาหรับขนานนามให้ อัลฟัลฟ่า เป็น “ราชาแห่งอาหารทั้งมวล”

ลำต้นของอัลฟัลฟ่าจะมีความสูงประมาณ 30-60 เซนติเมตร แต่เป็นพืชที่มีระบบรากที่มหัศจรรย์มาก เติบโตได้ในทุกสภาพอากาศทั่วโลก ในบางพื้นที่รากของอัลฟัลฟ่าสามารถชอนไชลงไปได้ลึกกว่า 130 ฟุต ก็คือรากยาวกว่าลำต้นเป็นร้อยเท่า ทำให้ตัวอัลฟัลฟ่ามีประสิทธิภาพในการดูดซึมธาตุอาหารได้มากกว่าพืชชนิดอื่น ๆ อีกทั้งต้นอัลฟัลฟ่าเองก็จะไม่สะสมสารพิษอีกด้วย

ส่วนดอกของอัลฟัลฟ่าจะเป็นดอกสีม่วงหรือสีน้ำเงิน

สารอาหาร คุณค่าทางโภชนาการใน อัลฟัลฟ่า ( Alfalfa)

ด้วยระบบรากที่แสนมหัศจรรย์ ทำให้ประสิทธิภาพในการดูดซึมสารอาหารสูงมาก ตัวอัลฟัลฟ่า จึงมีสารอาหารมากมาย ทั้งกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกายมากถึง 8 ชนิด เช่น ไลซีน ลิวซีน ไอโซลิวซีน มีไธโอนีน ซึ่งล้วนแต่เป็นกรดอะมิโนจำเป็นต่อร่างกายเพื่อใช้ในการสร้างเซลล์ใหม่แต่ร่างกายไม่สามารถผลิตขึ้นเองได้ นอกจากนี้ อัลฟัลฟ่า ยังมีวิตามิน วิตามิน A วิตามินB 1,6 ,8  และวิตามินบี 12 วิตามินC วิตามินD วิตามินE วิตามินK  วิตามินP และ วิตามินU ยังไม่หมดเพราะในอัลฟัลฟ่ายังมีสารอาหารอื่น ๆ อีก ไม่ว่าจะเป็น ฟอสฟอรัส โปรแตสเซียม แคลเซียม สังกะสี เซเลเนียม รวมถึงเอนไซม์สำคัญต่างๆ
ทั้งอาเมเลล โคกุเลส อีมูลซิน อินเวอร์เคส เปอร์อ๊อกซีเตส เพดติเนส ซึ่งล้วนแต่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายทั้งนั้น ไม่แปลกที่จะได้รับการยกย่องให้เป็น “ราชาแห่งอาหารทั้งมวล”

ประโยชน์ของ อัลฟัลฟ่า ( Alfalfa)

ช่วยดีท็อกซ์ กำจัดของเสียออกจากร่างกาย

ในอัลฟัลฟ่ามี คลอโรฟิลด์สูง และยังมีแร่ธาตุอื่น ๆ ที่ทำหน้าที่ในการกำจัดของเสียออกจากร่างกาย ทั้งเลือดและอวัยวะภายในด้วย อีกทั้งยังช่วย ลดการตกค้างของเสียตามผิวหนัง ทำให้เลือดสะอาดและไหลเวียนได้ดีเมื่อเลือดดีขึ้นทำให้ผิวพรรณผ่องใสมีสุขภาพที่ดี

ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟัน

ในอัลฟัลฟ่าอุดมไปด้วยฟลูออร์ไรด์และแคลเซียมจำนวนมาก ทำให้มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกระดูกและฟันได้เป็นอย่างดี

ช่วยให้ระบบไหลเวียนโลหิตดีขึ้น ลดไขมันในเส้นเลือด

สารซาโปนินในอัลฟัลฟ่า จะช่วยลดการอุดตันของเกล็ดเลือดในเส้นเลือดฝอย ช่วยลดอัตราของการเกิดความจำเสื่อม และภาวะไขมันในเลือดสูงได้ ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคเส้นเลือดหัวใจตีบและโรคความดันโลหิตสูง

บรรเทาอาการชา บวมตามข้อ

สารอาหารในอัลฟัลฟ่าจะช่วยปรับสมดุลกรดด่างในร่างกาย ป้องกันการสะสมของกรดยูริกและกรดอื่น ๆ ตามข้อต่อต่าง ๆ
ทำให้อาการปวด อาการชาตามข้อลดน้อยลง

ปรับสภาพผู้หญิงวัยทอง

สาร Isoflavone ในอัลฟัลฟ่าเป็นเอสโตรเจนธรรมชาติ ซึ่งเหมาะกับผู้หญิงที่กำลังเข้าวัยทอง เพราะในสตรีในช่วงใกล้หมดประจำเดือนจะมีระดับเอสโตรเจนต่ำลง ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของร่างกายและเกิดภาวะกระดูกเสื่อม กระดูกเปราะได้ง่าย และซึ่งสาร Isoflavone จะเข้าไปช่วยชดเชยระดับเอสโตรเจนที่ต่ำลง

ดูจากทั้งสารอาหารและประโยชน์ต่าง ๆ แล้ว ไม่แปลกที่ อัลฟัลฟ่า ( Alfalfa) จะถูกยกย่องให้เป็น“ราชาแห่งอาหารทั้งมวล”
ก็เล่นดี มีประโยชน์เยอะขนาดนี้ ไม่ว่าจะเป็นสารอาหารที่ครบถ้วน แถมตัวของอัลฟัลฟ่าเองก็ไม่กักเก็บสารพิษให้มาเป็นสารตกค้างในร่างกายของเราอีกด้วย

สำหรับใครที่กำลังเริ่มดูแลสุขภาพ อยากให้ลองไปหาซื้ออัลฟัลฟ่ามาทานกันดู ของแบบนี้ต้องลองเอง ถึงจะรู้ว่าดีแค่ไหน แค่อ่านไม่ได้ทำให้สุขภาพดีขึ้นน้า มาเปลี่ยนพฤติกรรมการทานเพื่อสุขภาพที่ดีขึ้นกันเถอะ